หนูก็แค่ทำตามที่พี่สั่ง จาก "ตาโป๋เป่าปี่"

หนูก็แค่ทำตามที่พี่สั่ง (ตาโป๋เป่าปี่)

วิกฤติหนักจากน้ำท่วมใหญ่ในบ้านเมืองอย่างที่ ไม่เคยพบมาก่อนขณะนี้ พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกด่า ถูกว่าอย่างรุนแรงที่สุด แม้กระทั่งส่งคำด่าเข้าไปในเฟซบุ๊คของนายกรัฐมนตรีก็มี ไม่นับที่ส่งไปด่าว่าและส่งต่อๆ กันในเฟซบุ๊คอื่นๆ กระจายแพร่หลายไปทั่วในขณะนี้ ขอนำข้อความชิ้นหนึ่งจากเฟซบุ๊คที่กำลัง เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกสนานของผู้คนในบ้านเมืองมาให้ได้อ่านกัน ใครเป็นคนแต่งคนเขียนเฟซบุ๊คชิ้นนี้ไม่ปรากฏชื่อ แต่อ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นคนที่เข้าใจในเหตุการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี มีเนื้อหาดังต่อไปนี้ "หนูก็แค่ ทำตามที่ พี่เค้าสั่ง ไม่อยากดัง แต่ขัดพี่ นี้ไม่ได้ พี่เค้าบอก ขอให้หนู ทำเพื่อไทย หนูเลยกลาย เป็นนายกฯ ตลกดี หนูไม่รู้ อะไร ตั้งหลายอย่าง คนรอบข้าง บอกให้ทำ อย่างนั้นนี้ หนูก็งง และก็มั่ว ในบางที ก็อย่างที่ หญ้าแฝก หญ้าแพรกไง หนูไม่กล้า พูดสด กดดันมาก สคริปต์ยาก อ่านไม่ทัน มันไม่ไหว ก็เลยต้อง โยนคนโน้น คนนี้ไป ให้ไปถาม กระทรวงใคร กระทรวงมัน งานเยอะแยะ ทำไม่ทัน ดันน้ำท่วม หนูก็อ่วม จะทำไง ซ้ายขวาหัน กั้นตรงโน้น แก้ตรงนี้ พังทุกอัน ก็หนูมัน ไม่เคย เลยนี่นา คนรอบข้าง เก่งหรือไม่ หนูไม่รู้ เท่าที่ดู เก่งแต่ปาก หลายคนหนา ทั้งพี่ปอด พี่ตู่ เจ๊สุดา เก่งแต่หา เรื่องให้หนู อยู่ทุกวัน หนูโดนด่า ในเนต ในเฟซบุ๊ค ทั้งกระทู้ ด่ากระจาย หลายเวอร์ชั่น สุดจะทน โดนด่า ว่าทุกวัน หนูอัดอั้น แต่พี่เค้า ให้อดทน ไม่อยากเป็น นายกฯแล้ว พี่แม้วขา ช่วยกลับมา จากดูไบ หนูไม่สน ใครอยากเป็น ก็เป็นไป หนูไม่ทน พี่เป็นคน สร้างปัญหา ต้องมาเคลียร์ หนูขอกลับ ไปเป็นปู อยู่อย่างเก่า คิดแล้วเรา อยู่ไป ไม่คุ้มเสีย ทุกวันนี้ หนูเหนื่อย หนูอ่อนเพลีย พี่เป็นเอี้ย อะไร ไม่กลับมา" อ่านแล้วฟังแล้วเป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อความที่ส่งไปตามเฟซบุ๊ค แพร่หลายทั่วบ้านทั่วเมืองในขณะนี้ คงพอจะคลายเครียดจากน้ำท่วมได้บ้าง แม้น้ำท่วมใหญ่ในบ้านเมืองขณะนี้จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งเป็นผู้สร้างก็ตาม แต่ความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดตามมานั้น หนีไม่พ้นคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบซึ่งก็คือรัฐบาล เรื่องคงจะไม่หนักหนาสาหัสสากรรจ์อย่างที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ถ้าคนแก้ปัญหาเป็นคนที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะคนเป็นผู้นำ แม้จะมีความรู้ความเข้าใจไม่เพียงพอในการแก้ไขปัญหาก็ตาม แต่ถ้ารู้จักใช้คน รู้จักใช้ความเห็นของคนอื่น ที่มีเหตุมีผล ไม่เลือกพรรคเลือกพวก กลัวคนอื่นจะได้หน้าได้ตาแล้ว ปัญหาที่หนักก็จะบรรเทาเบาบางลง หรือจบสิ้นลงได้ด้วยดี ไม่เป็นปัญหาบานปลายอย่างที่ทำกันอยู่ในขณะนี้ แต่ที่ต้องถูกด่าถูกว่าอย่างหนักนั้น ก็เป็นเพราะทำงานตรงกันข้ามกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง ห้อมล้อม อยู่กับพวกของตัวเองที่ไร้ประสิทธิภาพในความคิดความอ่านที่จะแก้ไขปัญหาให้ถูกทิศถูกทาง ปราศจากการจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหา เข้าทำนอง "โง่แล้วขยัน" นั่นเอง ยิ่งพูดจึงยิ่งเละ ยิ่งทำจึงยิ่งเละ เรียกร้องให้ "ตัวเอี้ย" กลับมาช่วยนั้นเวลานี้มันไม่กล้ากลับมาหรอก ตราบเท่าที่มันยังล้างมลทินติดตัวไม่ได้จากคุกตะรางตามคำพิพากษาของศาล มันไม่ใช่คนกล้าอะไรหรอก มันกลัวตายที่สุดเวลานี้