ท่านล่ะจะลงสถานีไหน?
ยังไงๆก็ขออย่าให้เป็นตั๋วนอนยาวก็แล้วกัน คนกล้าหรือจะสู้ฟ้าลิขิต
หลิว ซื่อหรงในวันที่ประสบความสำเร็จในการสร้างคฤหาสน์-ห้องน้ำทองคำ
หลายคนคงไม่เข้าใจว่าทำไมผมจึงใช้ทองคำมากมายมหาศาลเพื่อสร้างห้องน้ำเพียงหนึ่งห้อง คงไม่ใช้
อวดร่ำอวดรวยแน่นอน เพราะผมก็ไม่ชอบการใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองด้วย แต่ผมกำลังทำให้หนึ่งฝัน
ของผมกลายเป็นจริง ไม่ว่าจะเปลี่ยนดินให้เป็นทอง
หรือจะเปลี่ยนทองให้กลายเป็นดินต่างก็เป็นเรื่องที่หาได้ยาก – หลิน ซื้อหรง
แต่วันนี้(26 ตุลาคม 2551) หลิน ซื่อหรง(ลัม ไซ-วิง)มหาเศรษฐีเจ้าของห้างจิวเวอรีชื่อดังแห่งฮ่องกงได้ลาจาก
หรือจะเปลี่ยนทองให้กลายเป็นดินต่างก็เป็นเรื่องที่หาได้ยาก – หลิน ซื้อหรง
แต่วันนี้(26 ตุลาคม 2551) หลิน ซื่อหรง(ลัม ไซ-วิง)มหาเศรษฐีเจ้าของห้างจิวเวอรีชื่อดังแห่งฮ่องกงได้ลาจาก
โลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ด้วยวัย 53 ปี ขณะที่ทิ้งเอาไว้ซึ่งทรัพย์สมบัติมูลค่ามหาศาลให้กับคนในครอบครัวของเขา
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของท่านเจ้าสัวท่านนี้เกิดจากหัวใจวายเฉียบพลัน
ย้อนเหตุการณ์ไปในวันที่ท่านเจ้าสัวเสียชีวิต คนขับรถส่วนตัวของหลิน ซื่อหรง
เล่าว่าเขายืนคอยเจ้านายอยู่ที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานเพื่อพาเจ้าสัวหลินไปยังสนามเทนนิส ทว่าคอยถึง
เล่าว่าเขายืนคอยเจ้านายอยู่ที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานเพื่อพาเจ้าสัวหลินไปยังสนามเทนนิส ทว่าคอยถึง
เวลาบ่ายสองก็รู้สึกเอะใจ จึงขึ้นไปตามเจ้านายที่ห้องส่วนตัว เรียกอยู่นานและเนื่องจากประตูล็อคเปิดเข้าไปไม่ได้
จึงเรียกให้คนในบ้านมาช่วยพังประตู ในที่สุดภาพที่ทุกคนเห็นคือ เจ้าสัวนอนที่เตียงไม่ไหวติง
เส้นทางสู่เจ้าสัวห้างทอง
หลิน ซื่อหรงเกิดเมื่อปีค.ศ. 1955 เป็นคนเมืองเฮิงเฟิง มณฑลกว่างตง(กวางตุ้ง) เกิดและเติบโตมา
เส้นทางสู่เจ้าสัวห้างทอง
หลิน ซื่อหรงเกิดเมื่อปีค.ศ. 1955 เป็นคนเมืองเฮิงเฟิง มณฑลกว่างตง(กวางตุ้ง) เกิดและเติบโตมา
ในครอบครัวชาวนาธรรมดา กระทั่งเติบใหญ่เด็กหนุ่มวัย 22 ปี ที่ต้องการออกเผชิญโลกกว้างจึงแอบว่ายน้ำ
ข้ามฝั่งไปยังเกาะฮ่องกงในปี 1977 เมื่อขึ้นฝั่งได้ก็หลบเจ้าหน้าที่เข้าเมือง เดินทางไปยังโหยวหม่าตี้
ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจและย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งของฮ่องกง หลินพบว่าที่นี้มีร้านทองมากมายยิ่งกว่าร้านขายข้าวสาร
ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจและย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งของฮ่องกง หลินพบว่าที่นี้มีร้านทองมากมายยิ่งกว่าร้านขายข้าวสาร
ในหัวจึงดีดลูกคิดในทันใด พร้อมกันนั้นก็คิดตัดสินใจจะต้องทำธุรกิจค้าทองคำ โดยเริ่มแรกได้เข้าไปทำงาน
เป็นเด็กฝึกงานในร้านทองแห่งหนึ่ง
ด้วยความที่เป็นคนขยันและมุมานะในการทำงาน นอกจากนี้ยังมีฝีมือในการตีทองอย่างประณีต อีกทั้งมีความ
ด้วยความที่เป็นคนขยันและมุมานะในการทำงาน นอกจากนี้ยังมีฝีมือในการตีทองอย่างประณีต อีกทั้งมีความ
สามารถในการดูเพชร ในที่สุดจึงตัดสินใจนำเงินที่เก็บออมได้ราว 300 หยวน มาเปิดร้านขายเครื่องประดับของตัวเอง
และด้วยฝีมือที่ละเอียดอ่อน เนื้องานสวยงามกว่าร้านอื่นในละแวกเดียวกัน จึงทำให้มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย
และเวลานี้เองการค้าของเขาก็เจริญรุ่งเรือง กิจการโตวันโตคืน
อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ.1980 ร้านเครื่องประดับของเขาได้รับผลกระทบรุนแรงจากสงครามอิรัก-อิหร่าน เพราะ
อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ.1980 ร้านเครื่องประดับของเขาได้รับผลกระทบรุนแรงจากสงครามอิรัก-อิหร่าน เพราะ
ราคาทองคำในตลาดฮ่องกงพุ่งสูงจนคนไม่กล้าซื้อ ทว่าท่ามกลางวิกฤติหลิน ซื่อหรงกลับมองเห็นโอกาส
เปลี่ยนกลยุทธิ์จับทองคำขาวบุกเบิกตลาดในยุโรป ในที่สุดจึงสามารถก้าวผ่านวิกฤตได้อย่างสวยงาม
จนยุคนั้นหลินได้สมญานามว่า “เจ้าสัวทองคำขาว”
และต่อมาหลินได้ก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อว่า “ฮั่งเฟิง โกลด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป”
ซึ่งได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 1999 และก่อตั้งบริษัทจิวเวอรี่ชื่อ “ทรีดี-โกลด์” เมื่อปี 2000
จนยุคนั้นหลินได้สมญานามว่า “เจ้าสัวทองคำขาว”
และต่อมาหลินได้ก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อว่า “ฮั่งเฟิง โกลด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป”
ซึ่งได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 1999 และก่อตั้งบริษัทจิวเวอรี่ชื่อ “ทรีดี-โกลด์” เมื่อปี 2000
นับได้ว่าจากเด็กฝึกงานคนหนึ่งสามารถผงาด ขึ้นสู่เจ้าสัวทองคำแห่งยุคของฮ่องกงได้อย่างสง่าผ่าเผย
ภูมิใจในสิ่งที่ทำ
เมื่อธุรกิจลงตัวและประสบความสำเร็จ วันหนึ่งเจ้าสัวหลินก็ปรารภว่าต้องการสร้างสุขา แต่หากไม่ใช่
ภูมิใจในสิ่งที่ทำ
เมื่อธุรกิจลงตัวและประสบความสำเร็จ วันหนึ่งเจ้าสัวหลินก็ปรารภว่าต้องการสร้างสุขา แต่หากไม่ใช่
สุขาธรรมดา ระดับเจ้าสัวหลินต้องการสร้างห้องน้ำทองคำ ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก เพื่อดึงภาพวาดในความฝัน
ให้เป็นความจริง เจ้าสัวใช้เวลา 3 เดือนเต็มในการเกลี้ยกล่อมคณะผู้บริหารในบอร์ดของบริษัท
ในที่สุดก็สามารถนำทองคำจากร้านสาขาของฮั่งเฟิง ที่อยู่ในย่านจิมซาจุ่ยมาสร้างเป็นสุขาสุดหรู
ในที่สุดก็สามารถนำทองคำจากร้านสาขาของฮั่งเฟิง ที่อยู่ในย่านจิมซาจุ่ยมาสร้างเป็นสุขาสุดหรู
พร้อมกันนี้เจ้าัวหลินยังเป็นผู้ดูแลออกแบบการสร้างเองทั้งหมดอีกด้วย
ความหรูหราของกระจกทองคำในห้องน้ำแห่งนี้
ความหรูหราของกระจกทองคำในห้องน้ำแห่งนี้
อ่างล้างมือก็ทองคำ
ความหรูหราของกรอบกระจกที่สุกอร่ามทั่วทั้งห้อง
ความหรูหราของกรอบกระจกที่สุกอร่ามทั่วทั้งห้อง
รวมระยะเวลาเบ็ดเสร็จในการสร้างสุขาแห่งนี้หนึ่งปีเต็ม โดยที่ใช้ทองคำทั้งสิ้น 380 กิโลกรัม และอัญมณี
เลอค่าจำนวน 6,200 เม็ด
แม้กระทั่งพื้นห้องน้ำก็ใช้ฟอสซิลไม้กลายเป็นหินที่มีอายุถึง 150 ล้านปี ส่วนระบบน้ำในสุขาระดับเดอลุกซ์
แห่งนี้ก็ถูกตั้งค่าให้ไหลเวียนแบบอัตโนมัติ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกหลังสร้างเสร็จเมื่อปี 2001 ทุกคนที่ได้เข้าชม
สุขาที่เจ้าสัวริเริ่มสร้างต่างก็รู้สึกอึ้งในความอลังการ เพราะไม่ว่าจะเป็นของใช้อย่างกล่องกระดาษชำระ อ่างล้างหน้า แปรงสีฝัน กรอบกระจก โคมไฟ ทุกอย่างล้วนสร้างขึ้นจากทองคำแท้ที่อร่ามตาทั่วห้อง
ซึ่งมีมูลค่า 38 ล้านเหรียญฮ่องกง ด้วยความหรูหรา อลังการงานสร้างทำให้ปะติมากรรมของเขาได้รับการบันทึกไว้ในกิสเนสบุ๊ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น