เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์ ม.รังสิต เผยวิธีดูแลรถยนต์หลังจมน้ำ ระบุควรปลดแบตตัดการจ่ายไฟ-ถ่ายน้ำมันออกให้หมดเพราะอาจเกิดสนิม พร้อมแนะวิธีดูว่ารถมือสองว่าถูกย้อมแมวขายหลังจมน้ำหรือไม่
ปัญหาอุทกภัยในขณะนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อทรัพย์สิน สิ่งใดสามารถเคลื่อนย้ายได้ก็ย้าย แต่ถ้าหากเคลื่อนย้ายไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้จมน้ำตามสภาพการณ์ ซึ่งถ้ามองดูแล้วทรัพย์สินจำพวกรถยนต์ เป็นทรัพย์สินที่ผู้คนหวงมากเป็นลำดับต้น ๆ เพราะมีมูลค่าสูง ไม่สามารถยกขึ้นที่สูงหนีน้ำได้และถ้าจมน้ำ ย่อมหมายถึงการเสียหายในทันที ดังนั้นจะเห็นได้ว่า หลายคนจึงนำรถไปจอดบนอาคารสูงหนีน้ำท่วมก่อน ใครสามารถจอดทันก็โชคดี แต่ถ้าจอดไม่ทันขึ้นมาล่ะ? ก็คงหนีไม่พ้นการจมน้ำ
ด้วยเหตุนี้ อ.รักชาติ แสงวงศ์ หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมยานยนต์และหัวหน้าศูนย์บริการยานยนต์ มหาวิทยาลัยรังสิต จึงได้แนะนำถึงวิธีดูแลรถยนต์หลังจากผ่านการจมน้ำเบื้องต้น ผ่านศูนย์ข่าวอาร์เอสยูนิวส์ มหาวิทยาลัยรังสิต ดังนี้
ควรปลดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อนเพื่อตัดระบบการจ่ายไฟ และไม่ควรสตาร์ทรถ เนื่องจากปัจจุบันมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสมองกล ซึ่งระบบเหล่านี้จมน้ำเพียง 5 นาที ก็เกิดความเสียหาย ถ้าหากจมน้ำ 1-2 วัน ระบบอาจจะเป็นสนิมได้
จากนั้นเช็คเครื่องยนต์และทำการเป่าหรือใช้สเปรย์ไล่ความชื้น เพราะในช่วงที่ดับเครื่อง กระบอกสูบบางกระบอกยังทำงาน อาจทำให้น้ำเข้าได้ และค่อยถ่ายน้ำมันทุกชนิดออกทันที เนื่องจากถ้าน้ำผสมกับน้ำมัน จะทำให้เกิดสนิม
ในปกติค่าซ่อมแซมรถยนต์ที่ถูกจมน้ำ จะมีราคาประมาณ 3 แสนบาท เนื่องจากทุกอย่างจะเสียหมด และยังต้องผ่าเครื่องยนต์ดูอีกว่ามีน้ำขังหรือไม่ และแม้ว่าเสียเงินซ่อม สภาพก็ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม เพราะมีอุปกรณ์บางตัวไม่สามารถนำออกมาได้ ทั้งนี้ แนะนำว่า ควรส่งซ่อมที่ศูนย์ของรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ แต่ถ้าจะซ่อมอู่ ก็ควรเลือกอู่ที่มีมาตรฐาน มีผู้เชี่ยวชาญควบคุม ถ้าหากเป็นรถยนต์ประกันชั้น 1 บริษัทประกันจะรับผิดชอบทั้งหมด
นอกจากนี้ อ.รักชาติ ยังได้แนะนำข้อควรระวังการซื้อรถยนต์มือสองว่าเป็นรถที่ถูกน้ำท่วมหรือไม่ โดยให้สังเกตจากสิ่งต่อไปนี้...
สิ่งแรกที่ตรวจได้คือ เปิดประตูรถเข้าไปจะได้กลิ่นอับในทันที เพราะน้ำท่วมไม่ใช่น้ำสะอาด ซ่อมดีอย่างไรก็ไม่สามารถลบกลิ่นอับออกไปได้ในระยะเวลาอันสั้น
จากนั้นตรวจที่ระบบจ่ายไฟว่ามีความขัดข้องหรือไม่ เพราะรถยนต์ที่จมน้ำ ระบบจ่ายไฟจะมีสภาพไม่เหมือนก่อนจม
สิ่งสุดท้ายที่ตรวจสอบได้คือ ดูน็อตขันเครื่องยนต์ว่าเป็นสนิมหรือไม่
สำหรับใครที่มีแผนจะซื้อรถยนต์มือสองในระยะเวลาอันใกล้นี้ ก็คงต้องตรวจสอบกันให้ดี ๆ นะจ๊ะ จะได้ไม่ถูกหลอกซื้อรถที่จมน้ำ ไม่เช่นนั้น อาจจะต้องขับไปซ่อมไปนะเออ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น